สำหรับเจ้าของธุรกิจแล้ว เมื่อลงทุนลงแรงทำธุรกิจก็คาดหวังที่จะได้เห็นกำไรที่เติบโตขึ้นในทุกๆ ปี แต่การทำธุรกิจไม่เหมือนกับการเล่นหวย ที่สามารถลงเงินทีเดียวแล้วสามารรู้ผลได้ในเวลาไม่นาน
แต่การทำธุรกิจจะต้องผ่านการตัดสินใจการดำเนินงานบางอย่างอยู่ตลอดเวลา และการมีผลกำไรในตอนท้าย ก็หมายความว่าการตัดสินใจต่างๆ จะต้องมีผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นบวกมากกว่าเป็นลบ แต่การตัดสินใจจะออกมาเป็นรูปแบบนี้ได้หรอ? ถ้าอาศัยการ”การคาดเดา”หรือ”ลางสังหรณ์”
โดยสิ่งที่จะช่วยยันยันให้การตัดสินใจในธุรกิจเป็นบวกมากกว่าลบ ก็คือ “การใช้ผลลัพธ์จากการทดลอง”
“การทดลอง หรือ Experimentation” เป็นการเปรียบเทียบการกระทำบางอย่าง 2 สิ่ง การกระทำแรกคือตัวดั่งเดิมที่มีอยู่แล้ว ส่วนการกระทำที่สองคือตัวดั่งเดิมที่มีการปรับเปลี่ยนบางอย่างตามสมมุติฐาน หลังจากนั้นก็ทำการทดลองกับผู้ชม(Audience) ที่ถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ที่จะถูกทดลองแยกกันระหว่างการกระทำแรกกับการกระทำที่สอง โดยที่ผู้ชมไม่รู้ตัวว่ากำลังอยู่ในการทดลอง
และหลังจากนั้นก็นำผลลัพธ์ของการกระทำทั้ง 2 อันมาเปรียบเทียบ ถ้าผลลัพธ์ที่สองดีกว่า ก็จะนำการกระทำที่สองไปดำเนินการจริง แต่ถ้าผลลัพธ์ของการกระทำแรกดีกว่า ก็หาสมมติฐานอื่นมาสร้างการกระทำเปรียบเทียบเพื่อทดสอบต่อไป
โดยการทดลองที่เป็นลักษณะที่รู้จักกันก็คือ A/B Testing หรือ Split Test
การเลือกใช้ผลลัพธ์จาก Experimentation ลักษณะนี้ จะเอาเฉพาะผลลัพธ์ที่ดีขึ้นกว่าเดิมไปดำเนินการจริง และถึงแม้ Experimentation ครั้งไหนที่ผลลัพธ์ของการกระทำที่นำมาเปรียบเทียบไม่ได้ดีกว่าเดิม ก็ถือว่าเป็นการ”เรียนรู้”ที่จะค้นหาสมมติฐานที่ใช่ต่อไป