ผมได้อ่านหนังสือ “คิดการตลาดแบบนักกลยุทธ์ ของ อ.ณัฐพัชญ์ โดยบทต้นๆ ของหนังสือ อ.ได้ปูพื้นฐานให้เราได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับคำว่า “กลยุทธ์”
เพราะทุกวันนี้ มีเครื่องมือและกิจกรรมทางการตลาดเยอะแยะมากมาย ถ้าไม่เข้าใจว่า กลยุทธ์ คืออะไร หรือ ไม่คำนึงถึงกลยุทธ์ สิ่งที่เราทำไป อาจจะทำให้เสียทรัพยากรไป โดยที่ไม่ได้ตอบโจทย์จริงๆ ขององค์กรเลย
โดย อ.ได้พูดถึง คำ 3 คำได้ แก่ กลยุทธ์ กลวิธี และ แผนการ
ซึ่งผมก็ขอสรุปตามความเข้าใจและยกตัวอย่างที่คิดออกนะครับ
1.กลยุทธ์ (Strategy)
คือแนวทางหรือแนวคิดหลักที่จะชนะในการแข่งขัน ซึ่งในการทำธุรกิจก็หมายถึงการชนะใจลูกค้า ที่มาจากพิจารณา จุดแข็งจุดอ่อนของเราและคู่แข่ง รวมถึงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ และมีการเลือกเอาแนวทางนั้น มาใช้ในการแข่งขัน เพื่อให้องค์กรมีความได้เปรียบแบบยั่งยืน
ยกตัวอย่าง รายการแข่งขันชกมวยไทยที่ถ่ายทอดโทรทัศน์
ผมมีโอกาสได้ดูรายการแข่งขันมวยไทย ทั้งแบบไปดูที่สนามและดูผ่านโทรทัศน์
ซึ่งก็สังเกตได้ว่า ในการชกกันจะดุเดือดในยกที่ 2-4 (ถ้าจำไม่ผิดจะชกกัน 5 ยก) โดยในยกที่ 1 กับ 5 นักมวยจะไม่ค่อยชกกัน
ยกที่ 1 จะเป็นการดูเชิงกัน ส่วนยกที่ 5 นักมวยจะไม่ค่อยออกอาวุธละ เพราะต่างฝ่ายกลัวเพลี่ยงพล้ำ พลาดท่า
ซึ่งทำให้ผมในฐานะคนดู ที่ไม่ได้ไปพนันอะไรผลแพ้ชนะอะไรกับเค้า รู้สึกไม่สนุกเท่าที่ควร และ ไม่จุใจ
ซึ่งถ้าผมจะจัดรายการแข่งชกมวยไทย ผมจะใช้กลยุทธ์
สร้าง “ความสนุกและเร้าใจ” ที่มากกว่า
ส่วนจะแปลงเป็นเป็น “กลวิธี” อะไร ไปดูกันในข้อถัดไปครับ
2.กลวิธี (Tactic)
กลวิธีคือ การกระทำหรือสิ่งที่ทำให้เกิดขึ้น เพื่อให้เกิดกลยุทธ์ หรือ ทำให้กลยุทธ์เด่นชัดขึ้น
เช่นตามตัวอย่าง กลยุทธ์รายการมวยไทย ที่ผมเลือกกลยุทธ์ สร้าง “ความสนุกและเร้าใจ” มากกว่า คือ
ความสนุก(ของผม) คือ การได้เห็นนักมวยออกอาวุธอย่างต่อเนื่อง ไม่ทิ้งเวลาในการดูเชิงกัน หรือ ดังคะแนนกัน
กลวิธีของผมคือ
- ออกกฎกติกาให้นักมวยออกอาวุธกันทันที หลังจากที่กรรมการสับมือให้ชกกัน ถ้าฝ่ายไหนไม่ออกอาวุธเกิน 3 วินาที ให้กรรมการข้างสนามตัดคะแนนทันที
- ในยกที่ 1 และ 5 นักมวยที่ออกอาวุธ จะได้คะแนนคูณ 2 ในแต่ละอาวุธที่ออก
ส่วนความเร้าใจ คือ การที่ผมได้เห็นการออกอาวุธที่หลากหลายในแม่ไม้มวยไทย ที่ไม่ค่อยได้เห็นกัน
กลวิธีของผมคือ
- ให้คะแนนอาวุธของนักมวยที่ออก ตามระดับความยาก-ง่าย ถ้าเป็น หมัด เตะ เข่า ให้คะแนนระดับ 1 แต่ถ้าเป็น หนุมานถวายแหวน หรือ หักงวงไอยรา ให้คะแนนระดับ 5 ไปเลย
ที่นี้ก็มาถึง แผนการ ละครับ ว่าผมจะต้องทำยังไงต่อ
3.แผนการ (Plan)
คือ ออกแบบลำดับการทำงานและระยะเวลาที่จะทำให้กลวิธีเกิดขึ้น ระบุว่าใครรับผิดชอบงานอะไร เมื่อไหร่ เช่นตัวอย่าง รายการมวยไทย
โดยเนื้องานที่ผมจะต้องทำ โดยที่ผมเรียงลำดับความสำคัญไปด้วย จะมีดังนี้ครับ
1) การทำคู่มือกฎกติกา และ
2)เรียกทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมารับรู้และทำความเข้าใจ
3)เทคโนโลยีบางอย่างที่มาจับตรวจการออกท่าแม่ไม้มวยไทยที่แม่นยำ
4)การเตรียมด้านการพยาบาลที่จะต้องมากขึ้นเพราะ นักมวยใช้แรงมากขึ้นหรือบาดเจ็บมากขึ้น
โดยการดำเนินงานจะมีงานที่ต้องทำก่อนเพื่อที่จะทำงานต่อไปได้ และบางงาน สามารถที่จะทำไปควบคู่กัน ซึ่งทำให้ลดระยะเวลาการเตรียมการ
และจากที่ผมได้ไล่เรียงคำว่า กลยุทธ์ กลวิธี และ แผนการ ผ่านตัวอย่าง(ที่ไม่รู้จะทำได้หรือเปล่า 55) จะเห็นได้ว่า
>ผมมีจุดประสงค์ที่จะ “ชนะใจลูกค้า” โดยใช้เกณฑ์ตัดสิน ที่(คิดว่า)ลูกค้าให้ความสำคัญ และ “คู่แข่ง” ทำได้ยังไม่ดีพอในสิ่งนั้น
>พอได้แนวทางที่จะพิชิตใจลูกค้าแล้ว ผมก็จะทำแนวทางให้เกิดขึ้นจริง โดยแปลงมันเป็นสิ่งที่จับต้องได้ ผ่านการกระทำหรือทำให้บางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น
ที่นี่ พอเข้าใจหลักการหรือแนวคิดเกี่ยวกับกลยุทธ์มากขึ้นแล้ว เราก็สามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า กิจกรรมหรือเครื่องมือการตลาดที่มีอยู่มากมาย อันไหนที่ควรจะให้ความสำคัญ หรือให้ความสำคัญมากน้อยแค่ไหน
ก็เพื่อให้เราทำงานได้ผลลัพธ์ที่แม่นขึ้น พลาดน้อยลง ไม่เสียทรัพยากรไปเปล่าๆ ซึ่งก็น่าจะเป็นแนวทางการทำงานที่เข้ากับสถานการณ์การแข่งขันที่ดุเดือดได้นะครับ
