ข้อมูลที่ได้จาก “การรวบรวมข้อมูล” ไม่ว่าจากการใช้เครื่องมือหรือวิธิการใดๆ สามารถแบ่งออกได้เป็น Qualitative Data และ Quantitative Data โดย Qualitative Data เป็นข้อมูลประเภทบรรยายจากสิ่งที่คนพูด(คำพูดหรือตัวหนังสือ) โดย Quantitative Data เป็นข้อมูลประเภทตัวเลข โดยความแตกต่างแต่เกื้อหนุนกันของประเภทข้อมูล 2 ตัวนี้คือ Quantitative Data เป็นการบอกว่า “ตอนนี้กำลังเกิดอะไรขึ้น” โดยมี Qualitative Data เป็นตัวบอกว่า”ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น”
ตัวอย่าง 1 : สมมติว่าบริษัท A ต้องการทำเว็บไซต์ใหม่ เลยต้องการอยากรู้ว่ารูปแบบของเว็บไซต์ใหม่ มีประสิทธิภาพดีกว่าเว็บไซต์เดิมหรือไม่ จึงทำการทดสอบด้วย A/B Testing โดยได้รับผลการสำรวจดังนี้
-Quantitative Data > ยอดขายเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับเว็บไซต์เก่า
-Qualitative Data > ความเห็นของลูกค้า “ฉันสามารถค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้ง่ายขึ้น”
ตัวอย่าง 2 : สมมติว่า บริษัท B ต้องการเพิ่มการมีส่วนร่วมใน Facebook (Engagement) บริษัทเลยทำ A/B Testing เพราะต้องการรู้ว่าภาพโฆษาณาอันใหม่ จะมีประสิทธิภาพดีกว่าภาพโฆษณาเดิมหรือไม่
-Quantitative Data > ยอดการมีส่วนร่วมเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับภาพโฆษณาอันเก่า
-Qualitative Data > ความเห็นของลูกค้า “ฉันรู้สึกสะดุดตากับภาพโฆษณาตอนที่ฉันไล่ดูหน้าฟีดของตัวเอง ฉันเลยต้องดูรายละเอียดของข้อมูล”
จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่า Quantitative Data และ Qualitative Data เป็นข้อมูลที่สนับสนุนกัน ทำให้เราเข้าใจที่มาที่ไปของลูกค้าได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งเราก็สามารถนำเอาข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ในการตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น ดีกว่าการใช้การตัดสินใจผ่าน”สัญชาตญาณ”หรือ”ประสบการณ์”